Ragnarok M: Classic คู่มืออาชีพและคำแนะนำ

Ragnarok M: Classic ไม่ใช่แค่การย้อนวันวาน แต่คือการกลับมาของกลยุทธ์ที่แท้จริง ด้วยอาชีพหลากหลายให้เลือก การเลือกอาชีพที่เหมาะสมสามารถเปลี่ยนผลการเล่นของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะล่าบอส MVP, ฟาร์มเซนี หรือไล่ล่าใน PvP คู่มืออาชีพนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกอาชีพที่ตรงกับสไตล์ของคุณที่สุด หากคุณอยากเลเวลไวและฟาร์มได้ฉลาดขึ้น การเล่น ROM Classic ผ่าน OSLink จะยกระดับประสบการณ์ของคุณไปอีกขั้น

 

Ragnarok M: Classic ตารางจัดอันดับอาชีพ

ก่อนจะลงลึกในรายละเอียดแต่ละอาชีพ มาดูภาพรวมการจัดอันดับตามประสิทธิภาพ ความอเนกประสงค์ และความง่ายในการเล่น ตั้งแต่ต้นเกมจนถึงท้ายเกม ไม่ว่าคุณจะเล่นเพื่อ PvE, PvP หรือฟาร์ม ตารางนี้จะแสดงภาพรวมว่าแต่ละอาชีพมีข้อดีอย่างไรบ้าง

 

เจาะลึกอาชีพเด็ดใน Ragnarok M: Classic

จากตรงนี้ไป เราจะพาคุณไล่ดูทีละอาชีพใน Ragnarok M: Classic พร้อมจุดเด่น ข้อเสีย และคำแนะนำ เพื่อช่วยให้คุณเลือกอาชีพที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด

 

ชาโดว์เชสเซอร์ (Shadow Chaser)

อาชีพครอบจักรวาลที่ฟาร์ม zeny ได้ดี สร้างดาเมจแรง และปั่นป่วนศัตรูใน PvP ได้อย่างมีสไตล์

จุดเด่น:

• ดาเมจแรงแบบเป้าหมายเดียวด้วย Triangle Shot

• มีสกิลฟาร์ม zeny (หาได้ยากและมีประโยชน์มาก)

• เหมาะทั้ง PvE และ PvP โดยเฉพาะช่วงกลางถึงท้ายเกม

• มีสกิล Strip ที่ทำให้ PvP ได้เปรียบ

• เคลื่อนที่ไว ล้วงหลังศัตรูได้ดี

จุดด้อย:

• เกมต้น ๆ ค่อนข้างอ่อน ต้องใช้เวลาในการพัฒนา

• สกิล AOE อาจชนกับ Land Protector ของ Sorcerer

• ต้องลงทุนกับอุปกรณ์เพื่อโชว์ศักยภาพเต็มที่ใน PvE

 

เหมาะกับสายฟรี: ปานกลาง – ช่วงต้นลำบาก แต่คุ้มระยะยาว

เหมาะสำหรับ: ผู้เล่นที่อยากฟาร์มเดี่ยวเก่งและปั่นป่วนใน PvP พร้อมสร้างรายได้จาก zeny

 

อาร์ชบิชอป (Archbishop)

สายซัพพอร์ตที่ดีที่สุดในเกม เป็นที่ต้องการทุกปาร์ตี้ตั้งแต่ต้นจนจบเกม

จุดเด่น:

• ฮีลและบัฟอันดับหนึ่งในเกม

• สายฟรีเล่นได้ง่ายมาก

• จำเป็นในดันเจี้ยน WoE และเนื้อหากิลด์

• มีสกิลโจมตี Holy ใช้เก็บเวลต้นเกม

• การแต่งตัวไม่ยาก – เน้นเวท, ป้องกัน และความเร็ว

จุดด้อย:

• เล่นเดี่ยวค่อนข้างน่าเบื่อ

• ไม่มีสาย DPS จริงจัง

• ความกดดันสูงในคอนเทนต์ยาก (ตาย = โดนด่า)

• เล่นคนเดียวอาจพัฒนาได้ช้ากว่า

 

เหมาะกับสายฟรี: สูงมาก – ลงทุนน้อย ใช้งานคุ้ม

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากเข้าปาร์ตี้ง่าย ๆ และเป็นกำลังหลักของทีม

 

ซอร์เซอเรอร์ (Sorcerer)

สายเวทที่ไม่ใช่แค่ยิงแรง แต่ยังปั่นป่วนและช่วยทีมได้ครบเครื่อง

จุดเด่น:

• ดาเมจเดี่ยวจากการโจมตีอัตโนมัติแรง

• เปลี่ยนเกราะศัตรูให้เป็นน้ำ ใช้คอมโบกับสายฟ้าแรง

• ต้าน AoE ได้ดีใน PvP/PvE

• มีดีบัฟ บัฟสวน และลูกเล่น PvP เยอะ

• สายฟรีแต่งง่ายกว่า Warlock

จุดด้อย:

• ช่วงต้นเกมไม่หวือหวา

• เซต DPS สุดทางราคาสูง

• ต้องใช้ไหวพริบใน PvP

• ต้องตั้งใจจริงถ้าอยากเป็นตัวทำดาเมจหลัก

 

เหมาะกับสายฟรี: สูง – อุปกรณ์เข้าถึงง่าย

เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบเล่นแบบมีแผน ปั่นป่วนศัตรู และยังสร้างดาเมจได้ดี

 

เจเนติก (Genetic)

อาชีพที่เน้นความยืดหยุ่นและพลังโจมตีสูง เจเนติกผสมผสานดาเมจ AoE รุนแรงกับเครื่องมือสนับสนุนที่สามารถทำลายศัตรูและอุปกรณ์ของพวกเขาในการต่อสู้ทีม เป็นอาชีพที่ครอบคลุมเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ แต่ต้องมีการเตรียมตัวพอสมควร

จุดเด่น:

• ดาเมจ AoE และ DPS เป้าหมายเดียวสูง

• สามารถทำลายอุปกรณ์ของศัตรูใน PvP และปกป้องของทีม

• สเกลแบบไฮบริด: ใช้ทั้งค่าพลังโจมตีกายภาพและเวทมนตร์

• บิลด์หลากหลาย: Acid Demo, Fire Expansion, เส้นทาง Homunculus

• มีพาสซีฟฟาร์ม zeny (เช่นเดียวกับเมคานิก!)

• ยอดเยี่ยมทั้งในโหมดเดี่ยวและทีมในช่วงท้ายเกม​

จุดด้อย:

• ส่วนใหญ่จำกัดที่ดาเมจไฟ – ถูกต่อต้านได้ง่ายด้วยอุปกรณ์ต้านทาน

• ช่วงต้นและกลางเกมยากในฐานะอัลเคมิสต์

• ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสายฟรี – ต้องการชุดอุปกรณ์ราคาแพงและการลงทุนในช่วงท้ายเกม

• อาจเสี่ยงในปาร์ตี้ฟาร์มเนื่องจาก AoE burst กระตุ้น MVP​

 

ความเป็นมิตรกับสายฟรี:

ต่ำ – ต้องการการลงทุนในอุปกรณ์และสถิติอย่างจริงจังเพื่อปลดล็อกศักยภาพเต็มที่​

เหมาะสำหรับ:

ผู้เล่นที่ต้องการอาชีพที่ทรงพลังในช่วงท้ายเกมพร้อมความสามารถใน PvP และตัวเลือกดาเมจที่ยืดหยุ่น หากคุณไม่รังเกียจเกมต้นที่ยากและชื่นชอบบิลด์ burst ที่วุ่นวาย เจเนติกคือคำตอบของคุณ

 

เรนเจอร์ (Ranger)

กำลังมองหาการเริ่มต้นที่ราบรื่นด้วยดาเมจ PvE ที่แข็งแกร่งและบิลด์โจมตีอัตโนมัติที่ใช้งานได้จริงหรือไม่? เรนเจอร์ทำให้การพัฒนาเกมต้นถึงกลางรู้สึกง่าย เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากความเรียบง่ายและผลลัพธ์ของดาเมจ แม้ไม่มีอุปกรณ์สุดโหด

จุดเด่น:

• ดาเมจ burst สม่ำเสมอจากการโจมตีอัตโนมัติ + การทำงานของฟอลคอน

• ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพเกมต้นถึงกลางแข็งแกร่ง

• ประสบการณ์การฟาร์มที่ราบรื่น โดยเฉพาะในอินสแตนซ์

• นักฆ่า MVP ที่แข็งแกร่งและตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับ War of Crystals ช่วงต้น

• สามารถสลับบิลด์หรืออาชีพได้อย่างอิสระพร้อมความคืบหน้าที่บันทึกไว้ผ่าน Emper Notebook​

จุดด้อย:

• ลดลงในช่วงท้ายเกม โดยเฉพาะใน PvP เนื่องจากการสเกลต้านคริติคอล

• ขาดสกิลฟาร์ม zeny โดยเฉพาะ

• มีบิลด์กับดักแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือสม่ำเสมอ

• ต้องการอุปกรณ์ที่เน้นคริติคอลเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องใน PvP ระดับสูง​

 

ความเป็นมิตรกับสายฟรี:

สูงสำหรับเกมต้นถึงกลาง – ให้อภัยและสร้างง่าย

กลางสำหรับเกมท้าย – ต้องการการอัปเกรดอุปกรณ์เพื่อรักษาประสิทธิภาพ​

เหมาะสำหรับ:

ผู้เล่นที่ต้องการการเริ่มต้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยความซับซ้อนน้อย เหมาะสำหรับการฟาร์ม การฟาร์มอินสแตนซ์ และช่วยในการล่า MVP หากคุณชื่นชอบบิลด์โจมตีอัตโนมัติและการพัฒนาเกมต้นที่ราบรื่น เรนเจอร์จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

 

รูนไนท์ (Rune Knight)

รูนไนท์นำทุกสิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับการเป็นไนท์และยกระดับขึ้น ด้วยสกิลระเบิดที่สเกลจากทั้งสถิติกายภาพและเวทมนตร์ เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับผู้เล่นที่ต้องการผสมผสานดาเมจและความอยู่รอด โดยเฉพาะใน PvE และ PvP ช่วงท้ายเกม

จุดเด่น:

• การสเกลดาเมจที่ยอดเยี่ยมในช่วงท้ายเกม (ทั้งกายภาพและเวทมนตร์!)

• ความเร็วในการเคลื่อนที่สูงสำหรับการหมุนเวียนที่ราบรื่น

• สามารถทำหน้าที่เป็นแทงค์รองได้หากจำเป็น

• การฝากสถิติใน Handbook ให้ประโยชน์อย่างมาก

• พึ่งพาการฟาร์ม Acer Monument น้อยกว่าคลาส DPS อื่น ๆ​

จุดด้อย:

• ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเปลี่ยนจาก Lord Knight เป็น Rune Knight

• บิลด์ช่วงท้ายเกมมีราคาแพงกว่า – ต้องการการลงทุนในหลายสถิติ (P.ATK, M.ATK, การป้องกัน)

• มักต่อสู้ในระยะกลาง ซึ่งต้องการความอยู่รอดที่สูงขึ้น

• เกมกลางอาจรู้สึกติดขัดเล็กน้อยจนกว่าบิลด์จะลงตัว

 

ความเป็นมิตรกับสายฟรี:

ระดับกลาง – สร้างง่ายกว่าบางไฮบริด แต่ศักยภาพเต็มที่ยังต้องการงบประมาณที่เหมาะสม​

เหมาะสำหรับ:

ผู้เล่นที่ต้องการนักรบที่โดดเด่นและโจมตีหนักพร้อมการสเกลที่แข็งแกร่งในช่วงท้ายเกมและความสามารถในการแทงค์ PvE ที่ดี เหมาะอย่างยิ่งหากคุณพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับเมนและขี่คลื่นพลังช่วงท้ายเกม

 

กิโยตินครอส (Guillotine Cross)

รวดเร็ว ร้ายแรง และสร้างขึ้นสำหรับดาเมจ burst ที่เน้นคริติคอล กิโยตินครอสเป็นนักฆ่า PvP ที่เจริญรุ่งเรืองในความวุ่นวาย เป็นผู้ทำลายอิมพีเรียมที่ยอดเยี่ยมในสงครามกิลด์และฝันร้ายสำหรับนักเวท แต่คุณจะต้องทำงานหนักเพื่อเอาชีวิตรอดในช่วงต้นเกม

จุดเด่น:

• ดาเมจ burst สูงด้วยบิลด์ที่เน้นคริติคอล

• ความเร็วในการเคลื่อนที่สูงสำหรับการโจมตีแล้วหนี

• แข็งแกร่งกับนักเวทและแนวหลังที่เปราะบางใน PvP

• ผู้ทำลายอิมพีเรียมที่ยอดเยี่ยมใน Guild vs Guild

• ทั้งบิลด์ Dagger และ Katar ใช้งานได้ โดย Katar มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนของ Ragnarok​

จุดด้อย:

• เกมต้นยากหากคุณเป็นสายฟรี – ต้องการอุปกรณ์ที่ดีเพื่อให้มีประสิทธิภาพ

• ถูกต่อต้านได้ง่ายโดย Sorcerers (Poison Cloud เป็น AoE และถูกทำลายโดย Land Protector)

• บิลด์ไฮบริดหลบหลีก + DPS อาจมีราคาแพง

• ต้องใช้เวลาในการตั้งค่าและการลงทุนในสถิติเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่า​

 

ความเป็นมิตรกับสายฟรี:

ต่ำ – เกมต้นยากและการปรับแต่งบิลด์คริติคอลมีราคาแพง​

เหมาะสำหรับ:

สายแอสซาซิน สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบคริติคอล การเล่นแบบลอบโจมตี และการครอง PvP ด้วยดาเมจที่รุนแรงในพริบตา เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่อยากรวดเร็ว โดดเด่น และอันตรายในทีมไฟต์เมื่อมีอุปกรณ์ครบครัน

 

Royal Guard

คลาสที่ถูกมองข้ามนี้มีความสามารถในการแทงค์ระดับแนวหน้าและการปกป้องทีมอย่างไร้ที่เทียบได้ โดยเฉพาะในดันเจี้ยนระดับยาก ด้วยสกิล Devotion และศักยภาพในการซัพพอร์ตที่แข็งแกร่ง Royal Guard จึงกลายเป็นเสาหลักที่ปาร์ตี้ของคุณสามารถพึ่งพาได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าคุณอาจจะไม่ติดอันดับ DPS สูงสุด แต่คุณจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ DPS ของทีมมีชีวิตรอด

ข้อดี:

• แทงค์ดีที่สุดในเกม—มีคุณค่ามากในคอนเทนต์แบบทีม

• ปกป้อง DPS หลักได้ด้วย Devotion และ Earth Drive

• ขาดไม่ได้สำหรับดันเจี้ยนยากและสงครามกิลด์

• สามารถทำดาเมจพอใช้ได้แม้จะเน้นปกป้องทีม

• น่ากลัวใน PvP หากสร้างถูกทาง—ตายยาก ป่วนได้ และยังซัพพอร์ตทีมได้ด้วย

ข้อเสีย:

• ไม่เหมาะกับสายฟรี—ต้องการ HP สูงและอุปกรณ์ป้องกันที่ดี

• DPS เดี่ยวต่ำ อ่อนใน PvE ช่วงต้นเกมถ้าไม่มีทีม

• ใน PvP อาจถูกจับทางโดย Genetic, Mechanic, Sorcerer และ Stalker (ปลดอุปกรณ์/ปิดสกิล)

• ต้องใช้เวลาสร้างตัวนาน และจะเก่งจริงในช่วงกลางถึงท้ายเกม

 

เหมาะกับผู้เล่นสายฟรีหรือไม่:
ต่ำ – สายแทงค์ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะและมีราคาสูงถึงจะทำหน้าที่ได้เต็มที่

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นที่ชอบเป็นหัวใจหลักของทีม ถ้าคุณสนุกกับการทนดาเมจแรง ๆ ปกป้องเพื่อนร่วมทีม และเป็นตัวสำคัญในดันเจี้ยนยาก Royal Guard คือตัวเลือกที่จะช่วยแบกทีมของคุณไว้ได้อย่างมั่นคง

 

ชาย Minstrel

สายบัฟที่ผสมผสานทั้งการซัพพอร์ตและการทำดาเมจ Minstrel (ผู้ชาย) และ Wanderer (ผู้หญิง) คือตัวเสริมทีมที่สมบูรณ์แบบ พวกเขามาพร้อมสกิลคู่ Ensemble, บัฟเพิ่มค่า Zeny และรูปแบบการเล่นที่ยืดหยุ่น เหมาะมากกับการลงปาร์ตี้ฟาร์มและกิจกรรมกิลด์ต่าง ๆ

ข้อดี:

• สกิลหลากหลาย: บัฟ, ชุบชีวิต, ดาเมจสนับสนุน, ฮีลเล็กน้อย

• สกิล "Mr. Gold Rich" = เพิ่ม Zeny ให้ทั้งปาร์ตี้!

• สกิลคู่ (Ensemble) เปลี่ยนเกมใน Thanatos และดันเจี้ยนอินสแตนซ์อื่น ๆ

• โดดเด่นในทีมดันเจี้ยนและ PvE ช่วงกลางถึงท้ายเกม

• บัฟสามารถสเกลได้ดีและมีประโยชน์ในคอนเทนต์แบบทีม

ข้อเสีย:

• เล่นคนเดียวอ่อน – เคลียร์คอนเทนต์ยาก

• สกิลซัพพอร์ตยังไม่เท่า Archbishop

• อุปกรณ์เซตแพง และเริ่มต้นสร้างยาก

• ไม่โดดเด่นใน PvP เท่าอาชีพซัพพอร์ตอื่น ๆ

 

เหมาะสำหรับสายฟรี:
ต่ำถึงกลาง – เล่นได้แบบไม่ต้องเทพทรู แต่ถ้าจะดึงศักยภาพสูงสุด ต้องลงทุน

เหมาะกับ:
ผู้เล่นที่เน้นปาร์ตี้ สนับสนุนทีมด้วยบัฟ ชุบชีวิต และฟาร์ม Zeny ได้ฉลาดขึ้น เป็นตัวเลือกดีเยี่ยมหากคุณอยากเป็นตัวซัพหลักของทีม โดยไม่ต้องเป็นสายฮีลหรือตัวชน

 

วอร์ล็อค (Warlock)

วอร์ล็อคเป็นคลาสที่เน้นการสร้างความเสียหายแบบ AoE อย่างรุนแรงและมีเวทมนตร์ที่โดดเด่น เคยเป็นราชาแห่งการเก็บเลเวล และแม้ว่าเมต้าอาจเปลี่ยนไป แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในดันเจี้ยนที่มีมอนสเตอร์จำนวนมากและการปะทะ PvP คิดถึง Meteor Storm, Tetra Vortex และความโกลาหลที่เคลียร์หน้าจอได้อย่างมหาศาล

ข้อดี:

• ความเสียหาย AoE มหาศาล – เหมาะสำหรับอินสแตนซ์ที่มีมอนสเตอร์จำนวนมาก (ET, Thanatos, Rifts)

• มีศักยภาพในการโจมตีครั้งเดียวใน PvP ด้วย Tetra Vortex

• สกิลไฟแรงอย่าง Meteor Storm สามารถละลายทีมได้

• ยังคงทรงพลังในสงครามกิลด์ช่วงท้ายเกมและ War of Crystals

• เหมาะสำหรับการฟาร์มปริมาณมากเมื่อมีอุปกรณ์ครบ

ข้อเสีย:

• ช่วงต้นและกลางเกมยาก – ขาดตัวเลือกโจมตีเดี่ยวที่แข็งแกร่ง

• ต้องการอุปกรณ์, ค่าสถานะ และการสนับสนุน Acer จำนวนมากเพื่อให้โดดเด่น

• ถูก Sorcerer’s Land Protector ต่อต้านได้ง่าย

• ต้องการการสนับสนุนจากปาร์ตี้หรือการเปลี่ยนคลาสเพื่อฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ

• ไม่เป็นมิตรกับ F2P เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์และค่าสถานะ

 

ความเป็นมิตรกับ F2P:

ต่ำ – ยากที่จะสร้างโดยไม่ต้องลงทุนอย่างมั่นคง

เหมาะสำหรับ:

ผู้เล่นที่ชื่นชอบเวทมนตร์ที่ระเบิดได้, ไม่รังเกียจที่จะลงทุนเวลาและ zeni ในอุปกรณ์ และต้องการละลายมอนสเตอร์หรือสร้างความโกลาหลใน PvP ควรใช้เป็นคลาสหลักสำหรับกิลด์ที่เน้นเนื้อหาขนาดใหญ่

 

ชูระ (Shura)

ชูระโดดเด่นด้วยความเสียหายระเบิดที่ทรงพลังและความสามารถในการแทงค์ในช่วงต้นถึงกลางเกม เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการกำจัด MVP และจัดการอินสแตนซ์เดี่ยว โดยเฉพาะเมื่อคนอื่นยังต้องการปาร์ตี้ Asura Strike นั้นรุนแรง แต่คุณจะต้องวางแผนล่วงหน้าด้วยอุปกรณ์และการสนับสนุน Acer เพื่อให้มันทรงพลัง

 

ข้อดี:

• ดาเมจเป้าหมายเดียวแรงมากด้วย Asura Strike

• เป็นแทงค์ที่ดีมากในช่วงต้น/กลางเกม PvE

• ตัวล่าบอส MVP – เหมาะกับการล่าบอสและคอนเทนต์ที่เน้นการเบิร์ส

• เด่นในดันเจี้ยนทีมที่ต้องใช้ดาเมจระเบิดสูง

• เล่นคนเดียวช่วงต้นเกมได้อย่างลื่นไหล

ข้อเสีย:

• ขึ้นอยู่กับ Acer อย่างมากในช่วงท้ายเกม

• ไม่เหมาะกับสายฟรี – ต้องการสเตตัสที่สูงเพื่อให้ยังเก่ง

• ฟาร์ม Zeny ได้น้อย

• Asura โดนเคาน์เตอร์หนักจาก Safety Wall ใน PvP

• ไม่ค่อยมีบทบาทในคอนเทนต์ AoE หรือมอนสเตอร์เยอะ ๆ

 

เหมาะสำหรับสายฟรี:
ต่ำ – ต้องใช้เกียร์ดีและสเตตัสเยอะเพื่อปลดล็อกศักยภาพเบิร์สเต็มที่

เหมาะกับ:
ผู้เล่นที่ชอบสไตล์การต่อสู้แบบศิลปะการต่อสู้และต้องการรู้สึกแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นเกม เหมาะสำหรับนักล่า MVP หรือคนที่ชอบเห็นดาเมจตัวใหญ่ ถึงแม้ต้องลงทุนมากหน่อย

 

เมคานิค (Mechanic)

เมคานิคเป็นคลาสที่ดีที่สุดในการฟาร์มเจนี่ โดยมีทักษะพาสซีฟที่แข็งแกร่ง, DPS ในเกมช่วงท้ายที่ดี, และบัฟพาร์ตี้ที่มีประโยชน์ มันสามารถขยายได้ดีด้วยการสร้างที่ถูกต้องและเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มุ่งเน้นการฟาร์มและพลังระยะยาว ช่วงต้นเกมค่อนข้างยุ่งยากและขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ และการสร้าง DPS ไม่เหมาะสำหรับผู้เล่น F2P แต่ว่าผลตอบแทนในช่วงท้ายเกมนั้นคุ้มค่า

 

อัลเคมิสต์ (Alchemist)

Alchemist is a solid starting class for those aiming to become a powerful Genetic. It offers decent ranged farming with Zeni passives similar to Mechanic and brings useful support in parties. However, it has a rough early game, relies heavily on fire-based skills, and isn’t very F2P-friendly without good gear. Best suited for long-term players looking to transition into a strong endgame class.

 

การฟาร์มใน Ragnarok M: Classic อย่างชาญฉลาดด้วย OSLink

จากคู่มือคลาสของ ROMC ที่คุณได้เห็น, การเป็นเจ้าของ Ragnarok M: Classic เกี่ยวข้องกับการเลือกคลาสที่ถูกต้อง, เข้าใจจุดแข็งของมัน, และฟาร์มอย่างชาญฉลาดไม่ใช่แค่ทำงานหนักเท่านั้น แต่ถึงแม้จะมีการเลือกคลาสที่ดี การฟาร์มยังคงเป็นเรื่องจริง คุณจะต้องฟาร์มเจนี่, ติดตาม MVP, วิ่งดันเจี้ยนไม่สิ้นสุด, และเตรียมตัวเมื่อเวลาบอสรีเซ็ต นี่คือที่ที่ OSLink เข้ามาช่วย OSLink ให้เครื่องมือที่ทรงพลังเพื่อช่วยให้คุณล้ำหน้าโดยไม่ต้องหมดแรง ด้วย OSLink คุณสามารถ:

• เล่น Ragnarok M: Classic บน PC ที่บ้านของคุณและควบคุมมันจากระยะไกล

• ใช้สคริปต์คลิกอัตโนมัติเพื่อทำฟาร์มดันเจี้ยนต่อไปแม้ในขณะที่ AFK

ทำให้กระบวนการซับซ้อนเช่น การเข้าคิวดันเจี้ยน, การสำรวจ MVP หรือการหาพาร์ตี้เป็นอัตโนมัติ สิ่งที่คุณต้องทำคือตั้งค่าครั้งเดียวและให้สคริปต์ของคุณจัดการการฟาร์มในขณะที่คุณมุ่งเน้นที่กลยุทธ์  

ไม่ว่าคุณจะเตรียมตัว Shadow Chaser ของคุณสำหรับการฟาร์ม Zeni หรือกำลังให้ Warlock ของคุณทำการฟาร์มในลูป, OSLink ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเวลาและความคืบหน้าของคุณได้.

 

บทสรุป

จาก Shadow Chaser ที่แสนแยบยลไปจนถึง Runeknight ที่ทรงพลัง, ทุกคลาสใน Ragnarok M: Classic ล้วนมีเอกลักษณ์ที่เพิ่มมิติให้กับการผจญภัยของคุณ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกคลาสไหน การฟาร์มอย่างชาญฉลาดดีกว่าการฟาร์มแบบทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ เตรียมตัวใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากันหรือยัง? ดาวน์โหลด ROM Classic และเชื่อมต่อกับ OSLink เพื่อทำการฟาร์มอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด, ล่ามหา MVP อย่างง่ายดาย, และยังคงเป็นผู้นำ แม้ในขณะที่คุณไม่อยู่ที่หน้าจอของคุณ